140x140
140x140
Cinque Terre  Cinque Terre  Cinque Terre   

แนะนำผักผลไม้ ปลูกง่าย
สำหรับคนมีเวลาและความเชี่ยวชาญจำกัดอย่างเรา

เรื่องราวการเริ่มทำฟาร์มออร์แกนิค
จากไม่มีความรู้สู่การเริ่มมีประสบการณ์จริง

เรื่องราวการเริ่มต้นทำฟาร์มออร์แกนิค... ว่าจะเป็นฟาร์มออร์แกนิค

รูปนี้ ดินที่ที่เลยค่ะ ตอนนี้ยังให้เช่า ปลูกมัน ปลูกอ้อยอยู่ค่ะ ความคิดยังไม่ตกผลึก ความรู้ยังไม่มี ความชำนาญเป็น 0 เลยลงกล้วยพันธุ์ปากช่อง 50 รอบที่กับท้ายที่ไป ช่วงหน้าฝน-มิถุนา 59 คาดว่าจากนั้นมันจะดูแลตัวเองได้ดีค่ะ บรัย 555

       เรานี่น่าจะเรียกได้ว่าเคยเป็นคนกรุงเทพขนานแท้ค่ะ จุดคิดในชีวิตก็น่าจะตอนเรียนมหา’ลัย ตอนนั้นต้องนั่งรถจากขอบฝั่งธนฯ เข้าเมืองทุกวันค่ะ ไปกลับร่วม 3 ชม. จนวันนีงอยู่บนรถเมล์คิดกับตัวเองว่า เรียนจบแล้วชั้นขอบาย เพราะชีวิตไม่อยากเอามาใช้แบบนี้เลยค่ะ รู้สึกว่าคุณภาพชีวิตย่ำแย่โดยเฉพาะเวลาที่เสียไปบนท้องถนน จบแล้วสมัครงานต่างจังหวัดเท่านั้น โดยมิปรึกษาใครทั้งสิ้น 5555

       อีกเรื่องก็น่าจะมาจากการไปค่ายที่ภาคเหนือค่ะ ค่ายแรกไปที่ อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ ณ เวลานั้นตกหลุมรักภูเขามากมายค่ะ ทำไมธรรมชาติมันถึงสวยงามได้ขนาดนี้ ทุกวันนี้ยังหลงรักภูเขามากกกก ^.^ ได้ไปอยู่กับชาวเขา ได้เดินป่า เก็บผัก หาเห็ดมากิน เหมือนเราอยู่กันคนล่ะโลกค่ะ สัมผัสความเรียบง่ายกลมกลืนกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ทำให้รู้ว่าการใช้ชีวิตจริงๆ ไม่ได้ต้องการอะไรมากนินา ส่วนประกอบของชีวิตที่ทำให้อยู่รอดและมีความสุข ปรัชญาชีวิตจากคนที่ไม่ได้เรียนหลายครั้งมันยิ่งใหญ่กว่าคนที่ยึดติดกับกล่องมากมาย ไปค่ายมันทุกเทอมหลังจากนั้นค่ะ พูดได้ว่าปิดเทอมมิเคยอยู่บ้าน จำได้ว่ามีครั้งนึงไป 3 อาทิตย์สร้างอาคารเรียนและห้องน้ำ กลับมาหมาที่บ้านจำไม่ได้อ่า

       ออร์แกนิคฟาร์ม ความรู้ไม่มีเลยค่ะ เรารู้สึกและรับรู้ได้ว่าคนเราน่าจะอยู่กลมกลืนกับธรรมชาติได้ ป่าทำไมมันดูแลตัวเองได้ อยากอยู่กับธรรมชาติ อากาศดี อาหารดี และอารมณดี๊ดี ค่ะ ^.^ ออร์แกนิคฟาร์ม เป็นการทำฟาร์มที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลง รวมถึงใช้แหล่งน้ำที่ไม่ปนเปื้อน ผลผลิตที่ได้มาดีต่อสุขภาพ และไม่ทิ้งสารปนเปื้อนให้สิ่งแวดล้อม เข้ากันกับ sustainability การเป็นอยู่อย่างยั่งยืน ดูโลกสวยเลยใช่ไหม

       มองโลกสวยอย่างเดียวมิได้ มันจะเจ็บตัวเอาค่ะ จะทำอะไรให้ได้ดีต้องวางแผน ลงรายละเอียด(ถ้าไม่มีใครลงให้) และมั่นใจจากการเห็นภาพทั้งหมดจนรับรู้ได้ว่ามันเป็นไปได้จริง หนึ่งสมองสองมือคนอื่นทำได้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะทำไม่ได้ถ้าต้องการจริงๆ อันนั้นธีมการใช้ชีวิตเลยค่ะ แต่ต้องบอกว่าเรื่องออร์แกนิคฟาร์มนี่ ทำการบ้านแย่มาก ไม่ได้ใช้ไอ้ธีมนั้นเลย โชคดีมีเพื่อนใจดีทักมา พอมานั่งทบทวนดู ไอ้ที่เรามีอยู่-มันไม่ใช่ละ ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่ามีแผนเลยสักนิด 555 มีแต่ลิสต์ต้นไม้กะแปลนอะ >.<"

       ณ ตอนนั้น รับรู้ได้ถึงคำที่ว่า you don’t know what you don’t know คือเราไม่รู้ว่าเราไม่รู้อะไร ถ้าเรารู้ว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรอันนั้นง่ายเพราะแค่ไปหามารู้ซะ-ใช้ความพยายามก็จัดการอยู่ แต่ไอ้แค่หัวข้อที่จะต้องรู้เรายังไม่รู้เนี่ย...สเตตัสนี้เลยค่ะ >.<"

       สเตตัสเยี่ยงนี้ เรานี่จำจะต้องหาความรู้ใส่ตัวรัวๆ เริ่มจากหาในเว็บและอ่านหนังสือ จนคิดเอาเองว่าพอจะได้หัวข้อมาคร่าวๆ ค่ะ ว่าฟาร์มออร์แกนิคที่เราจะทำนี่ คงต้องเข้าใจ มาตรฐานฟาร์มออร์แกนิค มีมาตรฐานระดับประเทศ จากกระทรวงเกษตร-Organic Thailand และระดับสากล เช่น International Federation of Organic Agriculture Movements: IFOAM (ของประเทศเยอรมัน), United States Department of Agriculture: USDA (ของสหรัฐอเมริกา), EURO Organic, CANADA Organic กะว่าจะขายในประเทศเอา Organic Thailand-ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ นี่แล่ะ แต่ตั้งใจอยากจะทำ sustainability จริงๆ น่าจะต้องเข้าใจแนวคิดของมาตรฐานสากลเพื่อเอามาใช้ให้ฟาร์มเราเป็นอยู่อย่างยั่งยืน และเผื่ออยากจะขอใบ certificate ในอนาคตด้วย

       และเรื่องสำคัญของ ฟาร์มออร์แกนิค คงมี เรื่องดิน การปรับปรุงดินน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ที่ดินที่เคยทำเกษตรสารเคมีตกค้างในดินอาจจะประมาณ 3-5 ปี และถ้าที่ข้างๆ เรา ทำเกษตรเคมี เราต้องปลูกพืชแนวกันชนเพื่อป้องกันสารเคมีมารุกล้ำเข้าฟาร์มของเรา >.< เรื่องถัดไปคือ เรื่องน้ำ นำ้ทำการเกษตรและล้างผลิตภัณฑ์ต้องไม่ปนเปื้อน เรื่องที่สามคือ จุลินทรีย์และปุ๋ยคอก และต้องเป็นปุ๋ยที่ได้จากสัตว์ที่กินอาหารออร์แกนิคไม่กินยาปฏิชีวนะ จุลินทรีย์ดีๆในดินจะได้อยู่ดี การไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงได้นั้น ดินต้องดีและต้นไม้ต้องแข็งแรง แล้วมันจะดูแลตัวเอง ทฤษฎีว่างั้น (รู้สึกดีจริงๆ ถ้ามันดูแลตัวเองได้อะ ^.^ ) เรื่องถัดมา การจัดสรรที่ดิน จะปลูกอะไรมั่งล่ะ ให้ปุ๋ยยังไงจุลินทรีย์เท่าไหร่ แล้วก็เรื่องสำคัญยิ่ง คือลูกค้า แบรนด์ดิ้ง จะหาที่ขายผลผลิตยังไง ขนส่งยังไง ตลาดผู้บริโภคอยู่ไหน รวมถึงเรื่องจิปาถะเช่น การจัดการระบบน้ำ ระบบปุ๋ย

       อะนะ นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดเองว่าควรต้องรู้ เพื่อเอามาวางแผน ที่เขียนมาหมดนั่น ยังไม่รู้สักเรื่องค่ะ >.<" กะว่าใจเย็นเจี๊ยบแล้วค่อยๆ ทำไป เพราะจะปรับปรุงดินให้ดินดีก็ใช้เวลาประมาณ 1 ปี ว่าจะเริ่มปรับปรุงดินปี 2560 กล้วยคงโตเป็นไม้พี่เลี้ยงได้แต่จะให้มันเลี้ยงอะไรนั้นยังไม่รู้ 555 เหมือนที่ยังไม่รู้ว่าจะปรับปรุงดินยังไงอะค่ะ เลยคิดว่าค่อยๆ หาความรู้ไป ทำไป แต่แผนควรจะต้องมีทั้งหมด คราวนี้เราจะเริ่มยังไงต่อล่ะคะ เพราะแผนยังไม่มีอะไรเลย 555 แถมลิสต์ต้นไม้ที่ทำไว้คงต้องแก้ถ้าต้องการผลผลิตสม่ำเสมอ คิดว่าคงต้องหา coach หรือพี่เลี้ยงดีๆ แล้วล่ะ ไม่งั้นรู้สึกเหมือนโลกสวยจะเจ็บตัว >.<" ขอไปตามล่าหาพี่เลี้ยงแป๊บ แล้วคงจะรู้ต่อว่า เริ่มจาก 0 จะเริ่มยังไงอะ 5555 แล้วจะมาอัพเดทสเตตัส organic farm นะคะ